ห้องที่ ๙๕ : พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร


           รำพึงพิตรกด้วยกรุณา
จักระงับดับโกลาแหลกม้วย
โดยธรรมหั่นห้ำอาธรรมดับ ลงแฮ
อันเหตุตัดหาญด้วยชอบชี้เชิงธรรม์
          แต่จำตูจักต้องไต่สวน
สาวสืบสอบสำนวนสัตย์เนื้อ
จับจริงจัดสิ่งควรโดยที่ ควรนา
ชอบผิดคิดไก่ลเกื้อเกลี่ยแก้ตามการ
          มินานท่านตริแล้วพลัน ๆ ผ้ายแฮย
ทวยเทพพิทยคนธรรพ์แห่ห้อม
รัถาท่านพาผันผยองเลื่อน
มาสู่สมรภูมิ์พร้อมพรั่งด้วยบริพาร
          ดำริห์สติยั้งเยงราม แหนงนอ
สู่ยักษ์จักบองามเงื่อนแท้
กูมาจักหาความสัตย์ตัด สินนา
มาใช่มาเกี่ยงแก้ขัดแค้นแทนมาร
          ตริเสร็จสั่งใหหยุดโยธา อยู่แฮ
ใช้ยักษ์เชิญอสุรารีบเต้า
ฝูงเทพทั่วท้าวอาราธน์เรียก มาฤๅ
นักบวชนักบุญเจ้าปู่ไม้มาชุม
          สิบเศียรทราบเหตุคร้ามความจรึง อยู่นา
แตมะนะนึกทรอึงออกแก้
จักสืบจักสอบถึงพิสูตร์ ก็ดี
มือพ่ายปากไป่แพ้ดอกได้เห็นกัน
          พลันยกพยุหยาตรย้ายพลคลา ถึงแฮ
ครพราบกราบอัยกากล่าวฟ้อง
เดิมหลานพบพรหมจารีนาฏ หนึ่งเฮย
หลงป่ากำพร้าร้องร่ำไห้ตามมา
          แถลงปางอสุริศร์เจ้าลงกา
ทราบสหายนัดาดับม้วย
ร่ำริตริไตรหาเชีงชอง ชนะแฮ
เห็นแต่อัยกาด้วยสิทธิชั้นสาบสาร
          คิดการไป่ช้าสั่งหลานรักษ์
วายุเวกนนยวิกยักษ์รีบเต้า
จำทูลทูดแถลงลักษณ์สารสื่อ
แด่พระอัยกาเจ้ายอดฟ้าผาสูง
          กล่าวไทยธรรมเทพท้าวธาดา
ทรงสมิทธิสิทธิวาสาบพร้อง
มาลีวราชปรากฏเกรีก นามแฮ
มารอมรหมดห้องหกฟ้าฟังคำ
          กถาธรรมึกถ้อยท่านสนทนา อยู่แฮ
แลผาดพบอสุรากราบเกล้า
ท้าวถามทูดกุมาราเล่า ถวายแฮ
สารทุกขทุกข้อเค้าแคะไค้พิไรทูล
          เหล่าลิงหลายสมุททั้งมนุษย์นาย มันเฮย
ข้ามสมุทมาหมายป่ายปล้น
เกษตราสุระทำลายแหลกล่ม ลงแฮ
โกษมอดโกษมารด้นโดดฟ้าดินหนี
          อสุรีอิศรราชเจ้าจอมจักร
สุดฤทธิสิ้นสิทธิศักดิ์จักสู้
ใช้ข้าทูดทูลลักษณ์สารแด่ พระนา
เชีญเสดจพระเสด็จกู้ชีพไว้รองธุลี
          ยินคะดีดำริห์ให้เห็นผิด ใจนา
ใครจึ่งเรืองรณชิตเชี่ยวห้าว
ตราบสุดบุตรมาริศร์แถลงเล่า ถวายเฮย
จึ่งทราบว่าหลานท้าวเพื่อนไท้อัชบาล
          หลานรักษซักไซ้สอบสวนหา เดีมนา
บอกว่าสาวชาวพนาแถบนั้น
พ่อแม่มอดหมดอาสันโสด จริงเฮย
ผัวญาติปราศหมดหมั้นจึ่งข้าพาจร
          รามร้ายนายซ่องรู้พาลหา เหตุเฮย
แส้งว่าเปนผัวมาจู่หลู้
หยาบหยามย่ามใจพาลิงหัก หาญแฮ
เหลืออดจึ่งออกสู้ศึกกั้นกันพงษ์
          สุริวงษ์มาชว่ยม้วยเพราะมือ มันแฮ
อัฐิเทียมเมรุฤๅกว่านั้น
พงษพรหมล่มลงคือคาทอด ไฟเฮย
ขอพระเดชพระกั้นเกษเกล้ามวนมาร
          มาลีดุลราชได้สดับสำ เนาเฮย
แจ้งจริตราวคำราพร้อง
หลีกหลักเลื่อนมูลอำยวนแยบ เยื้องฤๅ
แต่ฉกรรจปลายต้องที่ไท้ไต่สวน
          ใคร่ครวญเสร็จสั่งให้พิศุกรรม์
บอกเรื่องดึกดำบันแด่ไท้
บันทึกทุกกทงสำนวนราพ หาเฮย
เผดียงเสด็จรามให้รีบเมื้อมาพลัน
          นักการเทววิ่งฟ้ามาถับ ถึงแฮ
รบุรบิลบังคับคอยแล้ว
พระทรงศรแลงกลับถามสอบ
ใครทราบสูพึงแผ้วผ่องให้หายฉงน
          ชามภูผู้เฒ่าผู้ไวยกัลป กว่านา
สดับแสดงคำรับรว่มอ้าง
ความขำดำดึกลับฦกเล่า ถวายเฮย
ครั้งพระปรเมศสร้างสาตรแก้วอวยมาร
          ประทานพรให้ยักษปราบสาม โลกย์เฮย
จึ่งมลีนี้ปรามปิ่มฟ้า
ว่ายักษ์จักทำลามลุกใหญ่ หลวงนา
โลกย์จะแหลกลงถ้าจักห้ามเหนแคลน
          อัชบาลบพิตรผู้ไชยชาญ ก็ดี
ฦๅพระกฤษณ์ฤทธิรำบาญเดชห้าว
คงไป่อาจองค์หาญหักสาบ ได้นา
ชนี้แผ่นดินทุกด้าวจะได้ใครผดุง
          สุลาลัยบดิเทพท้าวพลันคิด เห็นแฮ
จึ่งประสาทปกาสิทธิ์สาบซ้ำ
สิทธิขรรค์มหันต์ฤทธิ์ฦๅเดช
ไว้สรับรำงับห้ำหั่นล้างตบองมาร
          ศิโวงการสั่งท้าวมาลี พรหมนา
นำพระขรรค์อันมีฦทธิแกล้ว
มามอบพระจอมศรีอยุทธเยศ
ไว้รงับดับแผ้วเผ่าพ้องมารพาล
          แต่นั้นสองราชเจ้าสมานมิตร มานา
รักเทียบเทียมชีพิตรเพื่อนไท้
ความนี่บมีผิดผันจาก จริงนา
ควรมิควรขอได้โปรดเกล้าพานร
          สังขกรทรงทราบสิ้นสงกา
ชวนพระลักษณ์อนุชายาตรเยื้อง
เถลิงรถบทจรพานรแห่ แหนเฮย
ถึงหยุดยานอยู่เบื้องเบี่ยงข้างขวาแขวง
          มาลีกมเลศได้ยลองค์ พระนา
พิศบ่อผิดจักรพงษ์พาหเงี้ยว
ปราโมทย์กระมลทรงตามเหตุ
หลานและมารมาเขี้ยวฆ่าด้วยการใด

จบห้องที่ ๙๕

  เนื้อความกล่าวถึงทศกัณฐ์ได้ข่าวว่าท้าวสัทธาสูรและวิรุณจำบังถูกสังหารก็เสียใจคิดหาช่องทางที่จะเอาชนะพระราม เห็นแต่ท้าววาลีวราชผู้เป็นพระอัยกาซึ่งมีวาจาสิทธิ์ที่จะสาปได้ จึงให้วายุเวกและนนยวิกผู้เป็นหลานไปทูลเชิญท้าวมาลีวราช ทูตยักษ์ทั้งสองพูดจาใส่ร้ายพระราม เมื่อท้าวมาลีวราชรู้ว่าพระรามเป็นหลานท้าวอัชบาลเพื่อนของตนก็คิดจะช่วยระงับเหตุ แต่ต้องไต่สวนหาความจริงเพื่อไกล่เกลี่ย เมื่อท้าวมาลีวราชเสด็จมาถึงสนามรบ ก็ไม่เข้ากรุงลงกา เพราะเกรงว่าพระรามจะคลางแคลงใจว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างทศกัณฐ์ จึงให้ไปตามทศกัณฐ์มาเฝ้าและเชิญเหล่าเทพ นักบวช และรุกขเทวดามาชุมนุมเป็นพยาน ทศกัณฐ์ให้การว่าพบสตรีนางหนึ่งเดินร้องไห้อยู่ในป่า เมื่อไต่ถามก็รู้ว่านางกำพร้าบิดามารดาและเป็นหญิงโสดไม่มีญาติมิตร ตนจึงพานางมา แต่พระรามกล่าวอ้างว่าเป็นสามีนาง แล้วยกทัพมาสังหารเผ่าพงศ์ยักษ์พินาศไปมาก ท้าวมาลีวราชได้ฟังทศกัณฐ์กล่าวหาร้ายแรง แต่ดูมีเงื่อนงำ คิดจะไต่สวนให้ถี่ถ้วน จึงให้พระวิษณุกรรมไปทูลแจ้งพระรามเรื่องแต่เก่าก่อนและขอให้พระรามรีบเสด็จมาที่สนามรบเพื่อแก้ข้อกล่าวหาของทศกัณฐ์ พระรามสงสัยและถามว่าผู้ใดรู้เรื่องเก่าก่อนนี้บ้าง ชามภูจึงทูลถึงเรื่องที่ไม่เคยเปิดเผยว่า ในกาลก่อนพระอิศวรประทานแก่อสูรและให้พรว่าให้มีอำนาจปราบสามโลกได้ ท้าวมาลีวราชซึ่งเป็นพรหมท้วงติงว่าอสูรจะทำลายโลก แม้แต่ท้าวอัชบาลหรือพระนารายณ์ก็ไม่อาจต้านทานฤทธิ์ได้ พระอิศวรจึงประทานพระขรรค์ให้ท้าวมาลีวราชนำมามอบให้ท้าวอัชบาลแห่งกรุงอยุธยา ท้าวมาลีวราชกับท้าวอัชบาลจึงเป็นสหายกัน เมื่อพระรามได้ฟังเรื่องราวแล้ว ก็ชวนพระลักษณ์เสด็จไปเฝ้าท้าวมาลีวราช

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “พลัน ๆ ผ้ายเฮย”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ตริเสร็จสั่งให้หยุด”